
การเลี้ยงไก่เล็ก
การเลี้ยงไก่เล็กเป็นช่วงที่ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เมื่อผู้เลื้ยงมองเห็นความสำคัญในจุดนี้ ย่อมที่จะให้เนื้อและไข่ที่ดีในโอกาสต่อไปเพราะไก่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์การแสดงลักษณะทางพันธุกรรมก็จะแสดงออกได้เต็มที่ตามสายพันธุ์ของไก่จึงจำเป็นต้องคำนึงถึง
1. วางแผนการเลี้ยงแบบเข้าพร้อมกัน - ออกพร้อมกันเพื่อให้การเลี้ยงไก่ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลและการควบคุมโรคได้เป็นอย่างดีระบบการเลี้ยงควรเป็นการเลี้ยงไก่อายุเดียวกันภายในโรงเรือนเดียวกันและขายออกในเวลาเดียวกัน (เข้าพร้อมกัน - ออกพรอมกัน) นอกจากควบคุมโรคต่างๆได้ง่ายยังสามารถทำความสะอาดโรงเรือนและอุปกรณ์พร้อมกับการพักโรงเรือนประมาณ 10 - 20 วันเพื่อตัดวงจรชีวิตของเชื้อโรคต่างๆที่สะสมอยู่ในระหว่างการเลี้ยงก่อนนำไก่ชุดใหม่เข้ามาเลี้ยง
2. จำนวนไก่ที่สั่งจองเพื่อนำเข้ามาเลี้ยงมีปัจจัยเป็นตัวกำหนดจำนวนไก่ที่จะสั่งจองเข้าเลี้ยงคือ
1. ขนาดความจุของโรงเรือนแต่ละโรงเรือนสามารถนำเข้าไก่ได้มากน้อยเพียงใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
2. อุปกรณ์ใส่อาหาร - ใส่น้ำมีจำนวนเพียงพอและเหมาะสมกับจำนวนไก่แต่ละประเภท
3. ฤดูกาลเป็นตัวกำหนดอัตราการเลี้ยงต่อพื้นที่ของโรงเรือนด้วยเช่นฤดูหนาวอากาศเย็นจำนวนไก่ต่อพื้นที่ย่อมมากกว่าฤดูร้อน
4. ประเภทของไก่เช่นไก่เนื้อ, ไก่ไข่, ไก่พันธุ์ย่อมใช้อัตราส่วนของพื้นที่แตกต่างกัน
5. สภาพการถ่ายเทอากาศซึ่งจะมีอิทธิพลอย่างมากต่ออุณหภูมิภายในโรงเรือน
เมื่อเราทราบว่าจำนวนลูกไก่ที่จะสั่งจองตามปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดแล้วเราก็สามารถที่จะกำหนดไก่ที่เราจะส่งตลาดเมื่อสิ้นสุดการเลี้ยงได้เช่นกันสมมุติว่าต้องการมีการส่งตลาด 10,000 ตัวเมื่อสิ้นสุดการเลี้ยงในจำนวนลูกไก่ 10,000 ตัวจะมีส่วนเกิน (แถม) 2% และต้องคิด % คัดทิ้งและ % ตายระหว่างการเลี้ยงประมาณ 5% เมื่อนำมาคิดจำนวนลูกไก่ที่ต้องการเข้าเลี้ยงอย่างแท้จริงคือ
จำนวนลูกไก่ที่ต้องการส่งตลาด 10,000 ตัว
จำนวนไก่ที่ควรส่งจองเพื่อชดเชย % ตายและ % คัดทิ้ง 10,523 ตัว
(โดยคิด % ตายและ % คัดทิ้ง = 5%)
จำนวนไก่ที่สั่งจองบวกส่วนแถม 2% = 10,000 + 200 ตัว
= 10,200 ตัว
จำนวนไก่ที่ต้องสั่งจอง = 10,523 x 100
10,200
= 10,316 ตัว
หรือ = 10,400 ตัว
จึงจะมีไก่เพื่อส่งตลาดตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 ตัว
ขั้นตอนการปฏิบัติการเลี้ยงดู
1. การเตรียมพร้อมก่อนลูกไก่จะมาถึง
ก่อนจะนำลูกไก่เข้าเลี้ยงภายใต้กกในโรงเรือนจะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมเช่นทดสอบเครื่องกกปรับตั้งอุณหภูมิเพื่อใช้ในการกกอย่างเหมาะสมคือสัปดาห์ที่ 1 อุณหภูมิประมาณ 32 - 34 ํC สัปดาห์ที่ 2 30 - 32 ํC และสัปดาห์ที่ 3 28 - 30 ํC ก่อนที่ลูกไก่จะมาถึงควรเปิดกกความร้อนไว้ประมาณ 2 - 3 ชม. เพื่อให้ใต้กกอุ่นพอที่ลูกไก่จะได้รับบนวัสดุรองพื้หากเป็นไปได้ควรปูด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ซ้อนกันประมาณ 7 - 10 ชั้นให้เต็มพื้นที่กกเพื่อใช้โปรยอาหารเพื่อลูกไก่จะได้เห็นอาหารได้ง่ายขึ้นในวันแรกและหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์ออกวันละ 1 ชิ้นเพื่อให้พื้นสะอาดอยู่ตลอดยิ่งดีนอกจากนั้นยังป้อนกันแกลบเข้าปะปนกับอาหารและน้ำอีกด้วย
2. ปิดผ้าม่านด้านข้างรอบโรงเรือนเพื่อป้องกันลมโกรก
เนื่องจากลูกไก่ระยะกกซึ่งยังเล็กอยู่จะไม่ชอบให้ลมพัดมากกระทบถูกโดยตรงเพราะลูกไก่ระยะนี้ยังต้องการความร้อนความอุ่นนั้นเองม่านนอกจากจะป้องกันลมแล้วยังช่วยรักษาอุณหภูมิภายในกกลูกไก่นั้นให้คงที่อีกด้วยและจะค่อยๆเปิดม่านขึ้นเพื่อให้อากาศถ่ายเทเมื่ออากาศร้อนและเปิดเมื่ออายุของลูกไก่มากขึ้นเมื่อพ้นระยะกก (3 สัปดาห์) ทำการเก็บผ้าม่านออกไม่มีความจำเป็นต้องปิดอีกต่อไป
3. ขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อลูกไก่มาถึง
1. รีบนำลูกไก่ลงจากรถทันทีและนำไปวางไว้ตามกกแต่ละกกตามจำนวนกกๆละประมาณ 500 - 600 ตัวและไม่คววางกล่องลูกไก่ซ้อนกัน
2. เปิดฝากล่องบรรจุลูกไก่ออกทันทีเพื่อตรวจสอบสภาพลูกไก่และเพื่อระบายความร้อน
3. ปล่อยลูกไก่ลงกกควรปล่อยอย่างระมัดระวังพร้อมนับจำนวนว่าถูกต้องหรือไม่โดยปล่อยกระจายไปรอบๆกกเพื่อให้ลูกไก่เกิดการเรียนรู้แล้วเข้าหาความอบอุ่นเองไม่ควรเทลูกไก่ออกจากกล่องลงกกเพราะไก่จะเครียดมากขึ้น
4. ให้น้ำที่ได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วให้ไก่ดื่มหลังจากปล่อยลูกไก่ลงกกและประมาณ 15 - 20 นาที (ลูกไก่หายจากอาการหอบเหนื่อยแล้ว) การวางควรวางไปรอบๆกกสลับกับภาชนะใส่อาหารและน้ำที่ให้ลูกไก่ดื่มควรผสมด้วยอีเล็กโทรไลท์ (ยาลดความเครียดจากการขนย้าย) หรือไวตามินหรือยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนและเพื่อให้ลูกไก่ฟื้นสภาพอ่อนเพลียได้เร็วขึ้นแข็งแรงและเจริญเติบโตตามปกติ
5. ให้อาหารที่จัดเตรียมไว้หลังจากให้น้ำประมาณ 20 - 30 นาทีซึ่งอาหารในมื้อแรกของลูกไก่ควรเป็นพวกปลายข้าวหรือข้าวโพดป่นโดยให้ไก่กินอยู่นานประมาณ 1-2 ชม. เพื่อให้ระบบการย่อยอาหารของลูกไก่เกิดการเรียนรู้และย่อยอาหารในขั้นแรกเสียก่อนเพราะว่าในสารอาหารจะประกอบด้วยวัตถุดิบหลายชนิดโดยเฉพาะพวกปลาป่นและเกลือซึ่งมีความเค็มสูงอาจทำให้ลูกไก่ท้องเสียหรืออุจจาระติดกันหลังจากลูกไก่กินข้าวโพดหรือปลายข้าวหมดแล้วจึงให้อาหาร
6. ตรวจความเรียบร้อยหลังจากปล่อยไก่ลงกกเพื่อกินน้ำและอาหารจนเรียบร้อยทุกกกแล้วในบางครั้งอาจพบว่าลูกไก่บางตัวอ่อนเพลียจากการเดินทางควรจับลูกไก่บางตัวเอาปากจุ่มน้ำเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และกินน้ำได้เองในเวลาต่อมาสังเกตุการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอของลูกไก่แต่ละกกว่าเป็นอย่างไรหากพบข้อบกพร่องต้องรีบแก้ไช
4. การปฏิบัติเลี้ยงดูลูกไก่ระยะแรก
การเลี้ยงไก่ในระยะกกผู้เลี้ยงจะต้องดูแลเอาใจใส่ลูกไก่อย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาการกกโดยปฏิบัติดังนี้คือ
1. อาหาร การให้อาหารลูกไก่ระยะกกควรให้ครั้งละน้อยๆเพื่อให้ลูกไก่กินหมดภายในระยะเวลา 1 - 2 ชม. ซึ่งการให้น้อยๆแต่บ่อยครั้งเช่นนี้จะทำให้ลูกไก่มีความกระตือรือร้นในการแย่งกันกินอาหารมากขึ้นและได้กินอาหารใหม่ๆอยู่ตลอดซึ่งการให้ครั้งละมากๆอาหารจะถูกลูกไก่คุ้ยเขี่ยและเหยียบย่ำและมีอุจจาระหรือแกลบปะปนอยู่ลูกไก่จะเบื่ออาหารทำให้เจริญเติบโตไม่ดีความแข็งแรงสมบูรณ์ต่ำลง
2. น้ำ น้ำที่จัดให้สำหรับไก่ดื่มต้องสะอาดปราศจากเชื้อโรคต่างๆที่เป็นอันตรายต่อไก่ทั้งทางตรงและทางอ้อมและมีจำนวนเพียงพอกับความต้องการของไก่
3. อุปกรณ์ใส่อาหาร - ใส่น้ำ เมื่อไก่อายุการเลี้ยงมากขึ้นความต้องการอาหารและน้ำย่อมากขึ้นอุปกรณ์ที่ใส่น้ำและใส่อาหารจำเป็นต้องจัดให้เพียงพอต่อความต้องการของไก่และใช้ภาชนะใส่น้ำและอาหารให้เหมาะสมกับอายุของไก่โดยปรับระดับภาชนะตามความสูงของไก่เพื่อลดการคุ้ยเขี่ยตกหล่นและการเปียกชื้นบริเวณที่ตั้งน้ำซึ่งอุปกรณ์ใส่น้ำก็ต้องล้างให้สะอาดทุกวัน
4. การขยายพื้นที่ จำเป็นต้องขยายพื้นที่กกให้กว้างขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้พื้นที่ของลูกไก่การขยายพื้นที่นั้นจะต้องกระทำทุก 3 วันโดยขนาดแผงล้อมกกออกครั้งละประมาณ 3 - 5 นิ้วเป็นรัศมีโดยรอบ
5. การเปิดผ้าม่าน ผ้าม่านที่ปิดไว้รอบๆโรงเรือนจะต้องเปิดออกเมื่ออากาศภายในโรงเรือนร้อนและกกที่ใช้กกลูกไก่ร้อนโดยค่อยๆเปิดออกการเปิดจะเปิดด้านบนลงสู่ด้านล่างเพื่อป้องกันมิให้ลมพัดกระทบตัวไก่โดยตรง
6. การปรับความร้อนเครื่องกกให้เหมาะสม เมื่อไก่โตขึ้นการสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายของตัวเองมีมากขึ้นฉะนั้นเครื่องกกที่ให้ความอบอุ่นก็จะมีความจำเป็นน้อยลงตามลำดับเพื่อให้ลูกไก่ได้รับความอบอุ่นอย่างเหมาะสมซึ่งลูกไก่ที่ได้รับความร้อนความอบอุ่นที่เหมาะสมลูกไก่จะนอนกระจายเรียงรายภายใต้กกบางตัวนอนยืดคอพาดไปตามพื้นอย่างสบายและมีความกระปรี้กระเปร่าในการกินน้ำกินอาหารถ้าความร้อนสูงเกินไปลูกไก่จะหนีห่างจากเครื่องกกไปอยู่รอบๆแผงล้อมกกส่งเสียงร้องดังอยู่ตลอดเวลาและถ้าความร้อนมากเกินไปเป็นระยะเวลานานๆลูกไก่จะแสดงอาการโผเผไม่กระปรี้กระเปร่าเนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไปบางตัวปีกตกขนไม่เรียบร้อยลักษณะของอุจจาระแห้งมากกว่าปกติด้วยแต่ถ้าความอบอุ่นไม่เพียงพอลูกไก่จะเบียดเสียดยัดเยียดกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่ใต้เครื่องกกเพื่อให้ได้ความอบอุ่นจนมีการสุ่มทับกันตายหากขาดความอบอุ่นเป็นระยะเวลานานลักษณะของลูกไก่ที่ได้รับความอบอุ่นไม่เพียงพอจะมีลักษณะยืนตัวสั่น, ปีกตก, อุจจาระติดกัน, ท้องเสียและลักษณะของอุจจาระจะเปียบมากกว่าปกติ
ดังนั้นการปรับความร้อนเพื่อใช้ในการกกจึงมีความสำคัญและจำเป็นต่อการเลี้ยงลูกไก่ซึ่งในทางปฏิบัติการปรับความร้อนให้พอเหมาะกับความต้องการของลูกไก่ที่จะได้รับความอบอุ่นอย่างเพียงพอจะทำควบคู่กันไปกับการขยายพื้นที่กกโดยยกเครื่องกกได้สูงขึ้น 1 นิ้วทุก 3 วันกระทำเช่นนี้จนกว่าจะพ้นระยะการกก
7. การสังเกตุ
1. หลังจากให้อาหารแต่ละมื้อควรสังเกตลูกไก่ภายในกกทุกตัวว่าเป็นอย่างไรโดยทั่วไปลูกไก่ที่สุขภาพแข็งแรงหลังจากให้อาหารความสนใจของลูกไก่จะอยู่ที่อาหารแย่งกันกินอาหารอย่างเพลิดเพลินทุกตัวหากการให้อาหารมื้อใดลูกไก่บางตัวหรือส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจอาหารที่ให้ใหม่แสดงถึงความผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกไก่ฝูงดังกล่าวต้องรีบค้นหาสาเหตุและรีบแก้ไขทันที
2. สังเกตุการกินน้ำโดยทั่วๆไปการกินน้ำของไก่จะเพิ่มปริมาณมากขึ้นตามลำดับยกเว้นสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันเช่นหนาวหรือร้อนผิดปกติการกินน้ำจะน้อยหรือมากตามสภาวะกาลนั้นๆหากพบว่าสภาพอากาศปกติแต่การกินน้ำของไก่ลดลงลูกไก่ไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของลูกไก่ที่จะแสดงอาการป่วยให้เห็นในวันเวลาถัดมาเมื่อสังเกตุพบการกินน้ำน้อยลงผิดปกติจึงควรรีบแก้ไขก่อนจะเกิดผลเสียหาย
3. การสังเกตุทั่วๆไปเช่นสภาพกกร้อนเกินไป, หนาวเกินไป, จำนวนไก่แน่นเกินไป, จำนวนที่ใส่น้ำ, ใส่อาหารเพียงพอหรือไม่, ลักษณะของอุจจาระ, วัสดุรองพื้นชื้นเกินไปแห้งเกินไปหรือไม่หากพบปัญหาใดก็ตามที่เกิดขึ้นต้องรีบแก้ไขทันทีทันใดเพื่อลดสภาวะเครียดของลูกไก่ได้ทันท่วงทีจะได้ไม่ก่อให้เกิดความเสีย
4. การจดบันทึกการเลี้ยงไก่จะประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใดต้องอาศัยการจดบันทึกข้อมูลต่างๆเช่นอุณหภูมิโรงเรือน, ปริมาณอาหารที่ใช้ทั้งหมดในการเลี้ยง, น้ำหนักตัว, การทำวัคซีน, ประวัติการเจ็บป่วยเป็นต้นซึ่งข้อมูลที่มีการบันทึกไว้อย่างละเอียดในระหว่างการเลี้ยงจะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อสิ้นสุดการเลี้ยงแล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องอันที่สามารถเตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้าในลักษณะเช่นเดิมที่เคยประสบมาย่อมเป็นผลดีต่อการเลี้ยงไก่ในรุ่นต่อๆไป
| หน้าที่เข้าชม | 119,265 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 63,016 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 6 ก.พ. 2557 |
| ร้านค้าอัพเดท | 14 ส.ค. 2568 |
บีพี โชคอนันต์ 78